บทนำ
ศาสนา คืออะไร ศาสนา หมายถึง คำสั่งสอน คำสั่งสอนที่จะนับได้ว่าเป็นศาสนา(๑) นั้นจะต้องประกอบไปด้วยหลักสำคัญดังต่อไปนี้ :-
๑. ศาสดา ต้องมีศาสดาเป็นผู้ก่อตั้งศาสนา และศาสดาต้องมีอยู่จริงในทางประวัติศาสตร์ เช่น ศาสนายิวมีโมเสสเป็นศาสดา พระพุทธศาสนามีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดา ศาสนาคริสต์มีพระเยซูเป็นศาสดา และศาสนาอิสลามมีพระนบีมหะหมัด เป็นต้น
๒. ศาสนธรรม ต้องมีศาสนธรรมคำสอนทางธรรมจรรยา คำสอนเป็นหลักของศาสนา และกฎเกณฑ์เกี่ยวกับความประพฤติปฏิบัติเพื่อบรรลุผลอันดีงาม เช่น ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ได้แก่ คัมภีร์พระเวท พระพุทธศาสนา ได้แก่ คัมภีร์พระไตรปิฎก ศาสนายิว ได้แก่ คัมภีร์เก่า (Old Testament) ศาสนาคริสต์ ได้แก่ คัมภีร์ไบเบิล และศาสนาอิสลาม ได้แก่ คัมภีร์อัลกุรอาน เป็นต้น
๓. ศาสนพิธี ต้องมีพิธีกรรมที่เกี่ยวเนื่องมาจากคำสอนของศาสนา ซึ่งพิธีกรรมนี้ทำให้ศาสนาแยกออกจากลัทธิได้ พิธีกรรมของศาสนาต่างๆ เช่น พิธีสวมสายยัชโญปวีตหรือ (พิธีอุปานยัน) และพิธีล้างบาปในแม่น้ำคงคาของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พิธีอุปสมบทของศาสนาพุทธ พิธีสารภาพบาปของศาสนาคริสต์ และพิธีฮัจญ์ของศาสนาอิสลาม เป็นต้น
๔. ศาสนบุคคล ต้องมีคณะบุคคลทำหน้าที่โดยเฉพาะ สำหรับรักษาความศักดิ์สิทธิ์และคำสอนนั้นสืบต่อมา บุคคลคณะนี้เรียกว่า "พระ" ถือเป็นวรรณะและเป็นเพศพิเศษต่างกับสามัญชน เรียกว่า "สมณเพศ"
๕. ศาสนสถาน ต้องมีศาสนสถานเพื่อการประกอบศาสนกิจและศาสนพิธีต่างๆ ศาสนสถานของพราหมณ์-ฮินดู ได้แก่ เทวสถานหรือเทวาลัย ของพระพุทธศาสนา ได้แก่ วัด โบสถ์ ศาลาการเปรียญ วิหาร ศาสนาคริสต์ ได้แก่ โบสถ์ วิหาร ศาสนาอิสลาม ได้แก่ สุเหร่าหรือมัสยิด เป็นต้น
๖. ศาสนิกชน ต้องมีศาสนิกชนผู้นับถือ เลื่อมใสศรัทธาในศาสนานั้นๆ ซึ่งศาสนิกชนดังกล่าวเหล่านี้มักเรียกตามชื่อของศาสนาที่ตนนับถือ เช่น ฮินดูชน พุทธศาสนิกชน คริสตศาสนิกชน อิสลามมิกชนหรือมุสลิม เป็นต้น
๗. การกวดขันเรื่องความจงรักภักดี ชาวตะวันตกเรียกว่า Fidelity หมายความว่า ถือศาสนาหนึ่งแล้ว จะไปถือศาสนาอื่นอีกไม่ได้ แม้แต่จะเป็นรูปเคารพบูชาปูชนียวัตถุของศาสนา หรือลัทธิอื่นก็ ถือเป็นบาปใหญ่หลวงทีเดียว
หลักทั้ง ๗ ประการนี้ เรายึดถือกันสำหรับที่จะเรียกคำสอนหรือลัทธิอันใดอันหนึ่งว่า "ศาสนา" ถ้าไม่ครบถ้วนทั้ง ๗ ประการนี้ เรามักจะไม่ยอมรับเป็นศาสนา
คุณค่าของศาสนา
ศาสนานั้นมีคุณค่านานาประการสุดที่จะพรรณนา คุณค่าของศาสนาที่มีผลโดยตรงต่อมนุษย์ เป็นคุณค่าทางจิตใจอันถือได้ว่าเป็นคุณค่าที่สูงกว่าวัตถุ คุณค่าของศาสนาที่พอจะกล่าวโดยสรุปได้ดังนี้
๑. เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของมนุษย์ คือเป็นที่พึ่งทางใจ ทำให้มนุษย์ไม่รู้สึกอ้างว้างว้าเหว่จนเกินไป
๒. เป็นบ่อเกิดแห่งความสามัคคีของหมู่คณะ รวมไปถึงความสามัคคีในหมู่มนุษย์ชาติทั้งมวล
๓. เป็นบ่อเกิดแห่งการศึกษาทั้งในด้านพุทธิศึกษา จริยศึกษา
๔. เป็นบ่อเกิดแห่งจริยธรรม ศีลธรรม และคุณธรรม
๕. เป็นบ่อเกิดแห่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามทั้งหลาย
๖. เป็นเครื่องดับความเร่าร้อนทางใจ ทำให้ใจสงบเย็น
๗. เป็นดวงประทีปส่องโลกที่มืดมิดด้วยอวิชา ให้สว่างไสวด้วยวิชา
๘. เป็นสิ่งที่แยกมนุษย์ออกจากสัตว์ เพราะว่าสัตว์ไม่มีศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น